วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

3 อาการยอดฮิตระหว่างตั้งครรภ์

ช่วง ตั้งครรภ์จะเรียกว่าเป็นเรื่องปกติ เรื่องธรรมชาติของผู้หญิงก็ใช่ แต่อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ ไม่ใช่อาการที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันกันบ่อยๆ ดังนั้น เมื่อเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นคุณแม่หลายท่านจะเกิดอาการวิตกตามมา ตามไปดูกันว่า 3 อาการยอดฮิตของช่วงตั้งครรภ์ มีอะไรกันบ้าง

ตะคริว

คนเราสามารถเป็นตะคริวกันได้ทั้ง นั้น และส่วนมากไม่ได้มาจากสาเหตุที่ร้ายแรงอะไร ขณะเป็นตะคริวจะมีอาการกล้ามเนื้อแข็งเกร็ง ปวด มักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าพยายามจะขยับขาที่เป็นตะคริวก็จะยิ่งปวดมากขึ้น ส่วนใหญ่คุณแม่ตั้งครรภ์จะเกิดอาการตะคริวเมื่ออายุครรภ์ 6 เดือนขึ้นไป และเป็นมากในช่วง 2 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด และเกิดขึ้นเมื่อ…

กำลังนอนหลับ

เดิน นอน หรือนั่งในท่าที่ไม่สะดวกนานๆ

สาเหตุก็เป็นได้ 2 อย่างคือ มีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ หรือการไหลเวียนของเลือดไม่สะดวก และจะเกิดตะคริวช่วงน่อง และปลายเท้าได้มากที่สุด

แก้ตะคริว

ยืดกล้ามเนื้อส่วนที่ปวดให้ตึง เช่น ถ้าเป็นตะคริวที่น่อง ใช้ผ้ายาวๆ คล้องไว้ที่ปลายเท้า แล้วดึงผ้าเข้าหาตัวให้ตึง เพื่อให้ปลายเท้ากระดกเข้าหาตัว หรือให้คุณพ่อช่วยจับปลายเท้าให้กระดกขึ้น ถ้าเป็นตะคริวที่ต้นขา เหยียดหัวเข่าให้ตรง ยกเท้าขึ้นจากพื้นเล็กน้อย และกระดกปลายเท้าลงด้านล่าง

ให้กินอาหารที่มีแคลเซียมให้เพียงพอ ทุกวัน นม ปลาตัวเล็กๆ ผักใบเขียว และถ้าเป็นช่วงกลางคืนบ่อยๆ ให้ดื่มนมมากขึ้นในช่วงก่อนนอน และใช้หมอนรองขาจากที่นอนประมาณ 4 นิ้ว

ไม่ควรนวดแรงๆ บริเวณที่เป็น อาจจะทำให้เจ็บมากขึ้นได้

ถ้าเป็นมากเกือบทุกคืน ควรปรึกษาแพทย์

มือเท้าบวม

คุณแม่ที่ตั้งครรภ์มาถึง 6 เดือน ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่างเรื่องของอาการบวมตามมือและเท้า จะเรียกว่าเป็นเรื่องปกติของคุณแม่ตั้งครรภ์ก็ได้ เพราะเกิดจากการบวมน้ำ ยิ่งอากาศร้อนก็ยิ่งบวมได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะบริเวณข้อมือ ข้อเท้า แต่ก็ควรระมัดระวังและหมั่นสังเกตอาการตนเองอย่างอื่นด้วย เพราะอาการบวมอาจเป็นสาเหตุของครรภ์เป็นพิษได้เช่นกัน

บวมจากครรภ์เป็นพิษ

มักจะเกิดร่วมกับอาการ ปวดศีรษะ ตามัว มือเท้าบวม และใบหน้า คลื่นไส้ อาเจียน ความดันโลหิตสูง ถ้าครรภ์เป็นพิษชนิดรุนแรง อาจจะมีอาการชักก่อนคลอดหรือขณะคลอด และอาจมีภาวะหัวใจวายได้ด้วย ด้วยเหตุนี้เมื่อคุณแม่ไปพบคุณหมอทุกครั้ง คุณหมอจะต้องตรวจปัสสาวะ วัดความดันโลหิต จับชีพจร ฟังเสียงหัวใจของลูกในท้อง สังเกตอาการคุณแม่ว่าบวมมากน้อยเพียงไร

แก้อาการบวม

ไม่เดิน ยืน หรือนั่ง ท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป ควรพักเท้าบ่อยๆ โดยการยกเท้าขึ้นมาพักไว้

หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม เพราะเกลือที่มีรสเค็มจะดูดน้ำมาไว้ที่ผิวหนังทำให้มีอาการบวมมากขึ้น

เลือกใส่รองเท้าที่สบาย อย่าไปเสียดายถ้าต้องซื้อรองเท้าใหม่ และควรเลือกที่พื้นรองเท้านิ่ม เดินได้สะดวก

ริดสีดวงทวาร

ฟังชื่ออาจจะน่ากลัว และไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ก็สามารถเกิดได้บ่อยกับคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งริดสีดวงก็คือหลอดเลือดคำที่อยู่บริเวณทวารหนัก โดยปกติหลอดเลือดดำบริเวณนี้จะมีลักษณะเป็นกระจุก เวลาคุณแม่ตั้งครรภ์มดลูกขยายตัวขึ้นไปกดทับหลอดเลือดคำใหญ่ในช่องท้อง ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก แล้วมาคั่งอยู่บริเวณหลอดเลือดคำบริเวณทวารหนัก กระจุกหลอดเลือดคำนี้ก็ปูดออกมาเป็นก้อน เมื่อปวดท้องถ่าย และอุจจาระที่เป็นก้อนไปโดนก็ทำให้เจ็บ บางท่านมีอาการท้องผูกอุจจาระแข็งมาก ก็ยิ่งทำให้เจ็บ นั่งเบ่งถ่ายเป็นเวลานานขึ้น อุจจาระไปครูดกับริดสีดวง ทำให้หลอดเลือดฉีกขาด จึงมีเลือดปนออกมาพร้อมกับอุจจาระ

แก้ริดสีดวง

ดื่มน้ำสะอาดมากๆ อย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน

รับประทานผัก ผลไม้ อาหารที่มีกากใยให้มากขึ้น

ออกกำลังกายบ้าง ไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ

ห้ามซื้อยาถ่าย หรือยาสมุนไพรต่างๆ มารับประทานเอง เพราะถ้าเป็นริดสีดวงที่เกิดจากากรตั้งครรภ์ หลังคลอดก็จะหายไปเอง 3 อาการดังกล่าวที่ได้เอ่ยมา คุณแม่ตั้งครรภ์บางท่านอาจจะไม่พบกับปัญหาเหล่านี้เลย บางท่านอาจจะพบบางปัญหา หรือบางท่านมีทั้ง 3 ปัญหา และมากกว่านี้ ซึ่งการหาความรู้ในเรื่องอาการของผู้หญิงตั้งครรภ์ไว้ จะทำให้คุณแม่สามารถรับมือกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ และรู้จักการสังเกตอาการตนเองล่วงหน้า หรือถ้าไม่แน่ใจคุณหมอที่คุณแม่ฝากท้องจะเป็นผู้แนะนำ และแก้ไขให้คุณแม่ได้ดีที่สุดค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น