วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

มหันตภัยโรคร้าย ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 H1N1

มหันตภัยโรคร้าย ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 H1N1 (รักลูก)

ชวนคุณพ่อคุณแม่ทำความรู้จักกับเชื้อโรคร้ายสายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังระบาดสู่ทุกภูมิภาคทั่วโลก พร้อมเรียนรู้และป้องกันเพื่อคนที่เรารักโดยเฉพาะลูกรักตัวน้อยค่ะ

ด้วยขณะนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับสถานการณ์ของโรคระบาด “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 “Influenza A H1N1) หรือชื่อย่อว่า “ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009” ที่ได้เริ่มแพร่ระบาดจากประเทศเม็กซิโก มาตั้งแต่เดือนมีนาคม ซึ่งแม้จะเป็นเพียงโรคไข้หวัดใหญ่ แต่ก็ร้ายแรงจนสามารถคร่าชีวิตผู้คนได้


จากหวัดหมูสู่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

เริ่มจากได้มีการระบาดของโรคปอดเกิดขึ้นที่ประเทศเม็กซิโกจนกระทั่งวันที่ 21 เมษายน 2552 มีการพบผู้ป่วยเด็ก 2 ราย ทางตอนใต้ของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย และตรวจพบสายพันธุ์ว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ โดยมีพันธุกรรมหลักส่วนใหญ่ คล้ายคลึงกับไข้หวัดใหญ่ของหมู และมีส่วนประกอบบางส่วนคล้ายนกและคน ในระยะแรกที่พบจึงเรียก ไข้หวัดหมู ต่อมาเมื่อตรวจย้อนกลับไปที่เม็กซิโกที่มีการระบาดก่อนหน้านั้นก็พบว่าเป็น สายพันธุ์เดียวกัน ตามหลัก การเรียกชื่อไข้หวัดใหญ่ จะเรียกตามสถานที่ที่พบเป็นครั้งแรกที่มีการระบาด ดังนั้นถ้าเรียกให้ถูกต้องก็จะเรียกว่า ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก หรือไข้หวัดใหญ่อเมริกาเหนือก็ได้ แต่เนื่องจากในการประชุมมีการโต้แย้งกันมากถึงชื่อที่จะใช้เรียก ในที่สุดองค์การอนามัยโลกก็ยอมให้ใช้ชื่อว่า “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 H1N1” เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับประเทศแหล่งกำเนิด

“ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009” เกิดจากอะไร

โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ที่พบการระบาดครั้งแรกในประเทศเม็กซิโก สหรัฐอเมริกาและแคนาดา เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 (A/H1N1) สายพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนทั้งในคนและหมู โดยมีการติดต่อหรือแพร่เชื้อจากคนสู่คน ไม่ได้ติดต่อมาจากหมูและไม่มีหลักฐานว่าคนติดมาจากหมู แต่เป็นเชื้อไวรัสที่เกิดจากการผสมผสานข้ามสายพันธุ์ ระหว่างสายพันธุกรรมของเชื้อไข้หวัดหมูและเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในคน รวมถึงสัตว์ปีกร่วมกัน ซึ่งโดยปกติแล้ว เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เกิดตามฤดูกาลทั่วไป หรือที่ทำให้คนเราเจ็บป่วยได้นั้นจะมีอยู่หลายสายพันธุ์ แต่ที่เป็นปัญหาสำคัญทางด้านสาธารณสุขทั่วโลก คือเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A ที่สามารถกลายพันธุ์ได้ค่อนข้างสูงจนก่อให้เกิดเชื้อไวรัสรูปแบบใหม่ขึ้นได้ ตลอดเวลา นั่นหมายความว่า อาจเกิดโรคระบาดที่สามารถอุบัติขึ้นใหม่ได้เสมอ

เนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A เกิดจากไวรัสที่มีรหัสพันธุกรรมทั้งหมด 8 ท่อน ซึ่งสามารถสร้างโปรตีนได้ 10 ชนิด คือ PB2, PA, HA, NP, NA, M1, M2, NS1 และ NS2 ซึ่งส่วนที่มีความสำคัญ คือ HA (Hemagglutinin) มี 9 สายพันธุ์ คือ N1-N9 ซึ่งโปรตีนชนิด HA และ NA นี้เอง ที่เป็นตัวกำหนดความหลากหลายของสายพันธุ์ไวรัสชนิดนี้ ซึ่งจากการตรวจเชื้อไวรัสที่ระบาดขึ้นในเม็กซิโก ก็พบว่าเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A/H1N1 นั่นเอง

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ กับ ไข้หวัดนก

คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบข้อมูลการเปรียบเทียบความรุนแรงของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ใหม่ และไข้หวัดนกแล้วอาจจะเบาใจได้บ้าง เนื่องจากแพทย์ได้พบว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ มีความรุนแรงของโรคน้อยกว่าไข้หวัดนกมากกว่า 10 เท่า ทั้งนี้ เพราะจากการรายงานครั้งแรกในประเทศเม็กซิโกมีอัตราตาย ประมาณ 5-6% แต่ไข้หวัดนกมีอัตราการตายประมาณ 60% แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปพบว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดนอกประเทศ เม็กซิโกมากกว่า 300 ราย มีผู้ป่วยเสียชีวิตเพียงรายเดียว ดังนั้นอัตราตายของโรคนี้น่าจะน้อยกว่า 1% แต่โรคนี้มีอำนาจการแพร่กระจายเชื้อที่รวดเร็วและมากกว่ารวมทั้งมีการติดต่อ จากคนสู่คน ในขณะที่ไข้หวัดนกมีอัตราของการเสียชีวิตสูงกว่า แต่ไม่ติดต่อจากคนสู่คน

โรคร้ายติดต่อได้อย่างไร

การติดต่อของโรคนี้เหมือนการติดโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วๆ ไป คือ ติดต่อทาง ตรงโดยได้รับละอองฝอยจากการไอหรือจาม รวมถึงน้ำมูกและน้ำลายของผู้ติดเชื้อ และรวมถึงอาจได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือ หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า ลูกบิดประตู และโทรศัพท์ ที่สำคัญคือไม่มีรายงานการติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู ดังนั้น เราก็สามารถรับประทานเนื้อหมูได้อย่างมั่นใจ เนื่องจาก...การบริโภคเนื้อหมูหรือผลิตภัณฑ์จากหมูที่ปรุงสุกนั้นปลอดภัยไม่ มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ เนื่องจากเชื้อไข้หวัดใหญ่จะถูกทำลายได้ด้วยความร้อนจากการปรุงอาหารที่ อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป และการปรุงอาหารให้สุกยังสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคอื่นๆ ได้ด้วย

อาการของเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่

โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีอาการแสดงใกล้เคียงกับอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ที่พบตามปกติทั่วไป ได้แก่ มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีอาการไอ เจ็บคอ รวมทั้งอาจมีอาเจียน และท้องเสียร่วมด้วย ซึ่งผู้ที่ติดเชื้อหรือผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการมักจะไม่รุนแรง และสามารถหายป่วยได้โดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล แต่ผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตนั้นมักจะมีอาการปอดอักเสบรุนแรง คือ หอบและหายใจลำบากจนเสียชีวิต

รักษาโรคอันตรายนี้ได้หรือไม่

การรักษาจะใช้แนวทางเดียวกับ การรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วไปซึ่งยาที่ใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ที่ได้ผล คือยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ (oseltamivir) ซึ่งเป็นยาชนิดรับประทานชินดเดียวกับยาที่ใช้รักษาไข้หวัดนก และยาชนิดพ่นคือยา zanamivir โดยจากผลการตรวจเชื้อไวรัสนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าเชื้อนี้ดื้อต่อยาต้านไวรัส amantadine และ rimantodine

ป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ให้ครอบครัว

“ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ยังไม่มีวัคซีนที่ป้องกันได้ แต่หากสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ความเสี่ยงย่อมมีน้อยลง” ข้อมูล จากกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ แต่ทางองค์การอนามัยโลกได้กำลังร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัท ผู้ผลิตวัคซีน เร่งการผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ดังกล่าว ส่วนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลหรือวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่คุณพ่อคุณ แม่พาลูกน้อยไปฉีดกันในปัจจุบันนั้น ไม่สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นี้ได้ค่ะ

แต่ สิ่งที่ทุกคนควรคำนึงถึงและปฏิบัติไม่ให้โรคร้ายนี้แพร่ระบาดมาสู่ครอบครัว นั่นคือการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อต่างๆ ด้วยวิธีการดังนี้


งดการพาครอบครัวเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดของโรค


หลีกเลี่ยงการพาลูกและครอบครัวไปสถานที่แออัด ไม่เข้าไปใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการไอ จาม หรือเป็นหวัด


หากมีอาการของไข้หวัดใหญ่ ควรสวมหน้ากากอนามัย หรือใช้กระดาษทิชชู หรือผ้าเช็ดหน้าปิดปากจมูกทุกครั้ง ที่ไอ จาม ควรหยุดงาน หยุดเรียน และงดไปในที่ชุมชน เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายเชื้อให้กับผู้อื่นรวมถึงรีบปรึกษาแพทย์


หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ ทั้งตัวลูกน้อยและคุณเอง


รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ ดื่มน้ำสะอาด


นอกหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มสุรา


หากพบว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ ต้องรีบแจ้งสำนักงานสาธารณสุขหรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพื่อเข้าดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดทันที


ติดตามข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสุขภาพที่เป็นปัจจุบัน และปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัด


นอกจากนี้ควรหมั่นดูแลความสะอาดของลูกน้อยรวมถึงความสะอาดปลอดภัยทั้งภายใน และภายนอกบ้าน หากคุณพ่อคุณแม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ สามารถดูรายละเอียดได้ที่


• กระทรวงสาธารณสุข http://www.moph.go.th/


• กรมควบคุมโรค http://www.ddc.moph.go.th/


• สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ http://beid.ddc.moph.go.th/


• ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ โทร. 0 2590 1994 ตลอด 24 ชั่วโมง


• ศูนย์บริการ กรมควบคุมโรค โทร. 0 2590 3333 ตลอด 24 ชั่วโมง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น